ประวัติ
เค้กเริ่มใส่แว่นตั้งแต่ ม.4-5 ตอนนั้นจำความได้ว่ามีอยู่วันนึงนั่งไปต่างจังหวัดกับครอบครัวและได้เล่นเกมส์บวกเลขป้ายทะเบียนรถที่อยู่ด้านหน้ากับน้องชายปรากฎว่าเค้กมองป้ายทะเบียนรถไม่ชัดแต่ก็ยังพอมองเห็นซึ่งไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เรามองเห็นชัดกว่านี้ก็เลยบอกกับแม่ไปให้แม่พาไปวัดสายตา ตอนนั้นจำได้เลยว่าสายตาสั้น -0.50 ถามว่ามันสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตมั้ย ไม่เลยค่ะ แต่เราแค่แปลกใจว่าทำไมการมองเห็นมันไม่ชัดเท่าเมื่อก่อน พอได้แว่นมาก็ใส่เป็นครั้งเป็นคราวเมื่อต้องการอยากเห็นรายละเอียดที่คมชัดก็ใส่ จนช่วงเรียนปี 3 รู้สึกว่าไม่ได้แล้วเพราะเรียนหนังสือไม่รู้เรื่องเป็นอุปสรรคเลยใส่แว่นตั้งแต่ตอนนั้นมาค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคณะทัศนมาตร ?
ก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยว่ามีคณะนี้อยู่บนโลกนี้ ด้วยความที่เราเป็นคนรักสัตว์มากตั้งแต่เด็ก ความฝันในวัยเด็กอยากเรียนสัตวแพทย์ หลังจากจบ ม.6 ก็ไปสอบสัตวแพทย์มาแต่ก็ผิดหวัง มีอยู่วันนึงเค้กนั่งดูหนังสือเอ็นทรานซ์ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไรดี มาสะดุดคำว่าทัศนมาตร เลยถามคุณแม่ว่ารู้จักคณะนี้ไหม เพราะคุณแม่เป็นครูสอนแนะแนว คุณแม่ตอบว่าให้ไปหาข้อมูลในเน็ตซึ่งเค้กก็ไม่ได้หาค่ะเพราะไม่คิดเลยว่าจะได้เรียนคณะนี้ สุดท้ายคุณแม่เลยหาข้อมูลมาให้ว่าคณะนี้เรียนเกี่ยวกับสายตานะ เป็นคณะที่น่าสนใจทีเดียว หลังจากนั้นเค้กเลยเลือกที่ลงเรียนคณะทัศนมาตร ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ามาตอนปี 1 ทุกรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากค่ะ เครื่องมือทุกอย่างครบหมด บรรยากาศดี ทำให้เราเรียนแล้วมีความสุข ปี 1-2 เค้กจะเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐานหมดวิชา เคมี,ชีวะ,ฟิสิกส์,ยา,anatomy,physiology,เป็นต้นพอช่วงปี3-6 จะเริ่มเรื่องเกี่ยวกับสาขาตัวเองจริง จะเรียนในเรื่อง Binocular fusion,contact lens, low vision เอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวทำรีวิวอีกรอบกับสาขานี้นะค่ะ ในช่วงปี 3-4 ได้เริ่มออกหน่วยวัดตาต่างหวัดที่เป็นชนบทกับคณะบดีที่เป็นหมอตา เราได้เห็นว่าคนไทยมีปัญหาเกี่ยวสายตาและสุขภาพตาค่อนข้างเยอะซึ่งบางรายอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตได้บวกกับระบบต่างๆที่เข้าไม่ถึงชนทบทำให้ชาวบ้านไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับตามากน้อยแค่ไหน และด้วยความที่เราทำงานเป็นด่านหน้า เราควรให้ความรู้คนเยอะ และคัดกรองช่วยแบ่งเบาให้หมอตาระบบต่างๆจะได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ดีที่สุดแต่เราก็เริ่มที่จะทำจากจุดเล็กๆไปเรื่อยๆผลลัพธ์อาจมองเห็นไม่มากแต่ใจเราก็มีความสุขเพราะเราได้ช่วยคนให้เขาได้รู้ หลังจากนั้นเค้กเรียนมาเรื่อยจนปี 6 เราต้องออกมาฝึกงานข้างนอกแล้ว เริ่มจาก รพ ต้องไปอยู่ 4เดือน ที่ต่อมาบริษัทคอนแทคเลนส์ อยู่ 1 เดือนกับ 15 วัน และที่สุดท้ายที่ฝึกคือร้านแว่น อีก 1 เดือนกับ 15 วัน หลังจากฝึกจบเค้กก็ต้องมาเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบใบประกอบโรคศิลปะ เตรียมตัวได้ 2-3 เดือนซึ่งเวลาเตรียมตัวน้อยมากไหนจะอ่านหนังสือ ไหนจะทำงานไปด้วย (เค้กเลือกทำงานร้านแว่นก่อนนะค่ะ)เพราะฉะนั้นตอนสอบเราต้องเตรียมอย่างดีค่ะ ตอนนั้นมั่นใจมากยังไงก็สอบผ่าน ซึ่งสอบผ่านจริงๆค่ะ ต้องขอบคุณความพยายามและความเชื่อของเรามากๆค่ะ หลังจากสอบผ่านเค้กก็ทำงานร้านแว่นมาเรื่อยๆ เหตุผลที่เลือกทำร้านแว่นเพราะเป็นสิ่งแรกที่คนจะนึกถึงเมื่อมีปัญหาการมองเห็นนั่นคือด่านหน้าในการดูแล แก้ไข วินิจฉัยโรคและคัดกรองโรคตาเบื้องต้น (Primary eye care)ตลอดเวลา 3 ปีกว่า เค้กได้เก็บเกี่ยวความรู้และโอกาสต่างๆ จากลูกค้าที่เข้ามาบริการ ทำให้เค้กรู้ปัญหาและมั่นใจในการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงจุดให้มากที่สุด เพราะการตัดแว่นไม่ใช่การใส่แล้วชัดก็จบ จริงๆมันมีรายละเอียดที่มากกว่านั้น วันนี้เค้กพร้อมที่จะสร้างร้านของตัวเองที่เกิดจาก passion อยากให้ทุกคนเห็นความตั้งใจของเค้กนะค่ะ ทุกคนต้องได้รับโอกาสการบริการจากนักทัศนมาตรที่เป็นมาตรฐานสากลค่ะ
เป้าหมาย
อยากให้ทุกคนได้รับการดูแลสายตาที่เป็นมาตรฐานสากลเพราะ”การมองเห็นที่ดีเท่ากับคุณภาพชีวิตดี”
หน้าที่ของนักทัศนมาตร
-ตรวจและแก้ไขระบบการมองเห็นทั้งหมดการทำงานของทั้งสองตา (Binocular Vision)
-ตรวจและทดสอบการเคลื่อนไหวของตา (Ocular Motility)
-ตรวจคัดกรองความผิดปกติเพื่อส่งต่อให้แพทย์
-ฝึกกล้ามเนื้อตา (Vision Thaerapy)
-แนะนำและฟิตติ้งคอนแทคเลนส์ (Fitting Contract Lens)
